อีกเทรนด์ที่ทุกคน ทุกธุรกิจ ทุกภาคส่วนต้องติดตาม เมื่อ Global Industry Vision – GIV หรือ รายงานวิสัยทัศน์อุตสาหกรรมทั่วโลก คาดการณ์ว่า ภายในปี 2568 (ค.ศ. 2025) หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรมจะทำงานเคียงข้างมนุษย์ในภาคการผลิต โดยจะมีหุ่นยนต์ 103 ตัว ทุกๆ พนักงาน 10,000 คน
เกริ่นแบบนี้ไม่ได้บอกให้กลัว แต่เราควรเตรียมตัวและเติมทักษะเพื่อตอบโจทย์การทำงานในอนาคตตั้งแต่ตอนนี้ เพราะใน GIV ชี้ให้เห็น 10 เมกะเทรนด์ที่ส่งผลต่อรูปแบบการใช้ชีวิตและการทำงานของเราในปัจจุบัน รวมถึงคาดการณ์เทรนด์กับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมที่จะปังต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568 เช่น อัตราการครอบคลุมของเครือข่าย 5G, การใช้งาน AI (ปัญญาประดิษฐ์), การใช้งานหุ่นยนต์ในบ้าน การใช้ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ (Smart Assistant) ส่วนหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรมที่เขียนไว้ข้างต้นนั้น เป็นหนึ่งในการคาดการณ์ซึ่งสะท้อนความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและมูลค่าที่จะเกิดขึ้นมหาศาลในอนาคต
10 เทรนด์ฮอตและตัวอย่างการคาดการณ์ใน GIV ถึงปี 2568
- ใช้ชีวิตกับหุ่นยนต์ (Living with Bots)
ความก้าวหน้าทางด้านวัสดุศาสตร์ การเรียนรู้ของเอไอและเทคโนโลยีเครือข่าย จะส่งเสริมให้มีการใช้งานหุ่นยนต์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการเป็นผู้ช่วยในบ้านและผู้ช่วยส่วนตัว โดยรายงาน GIV คาดการณ์ว่าทั่วโลกจะมีอัตราการใช้งานหุ่นยนต์ตามบ้านร้อยละ 14 - ซูเปอร์ไซต์ (Super Sight)
การผนวกรวม 5G, VR/AR, Machine Learning และเทคโนโลยีใหม่อื่นๆ จะช่วยให้เรามองข้ามระยะทาง การผิดสัดส่วน พื้นผิว และก้าวไปไกลกว่าที่เคย เปิดมุมมองการมองเห็นของผู้คน ธุรกิจ และวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยในรายงาน GIV คาดการณ์ว่า จำนวนบริษัทที่ใช้ AR/VR จะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10 และจะมีผู้ใช้งาน VR/AR มากถึง 337 ล้านคนทั่วโลก - ซีโรเสิร์ช (Zero Search)
เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ดีไวซ์ที่ขับเคลื่อนด้วยดาต้าและมีเซนเซอร์ เริ่มมีความสามารถในการคาดการณ์สิ่งที่เราต้องการ คำตอบจะปรากฏให้เห็นในโดยไม่ต้องถามเลยด้วยซ้ำ การค้นหาในอนาคตก็จะไม่มีปุ่มกด เครือข่ายสังคมส่วนบุคคลจะสามารถสร้างขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย และอุตสาหกรรมก็จะได้ประโยชน์จาก การบำรุงรักษาโดยไม่ต้องค้นหา หรือที่เรียกว่า Zero-Search Maintenance โดยรายงาน GIV คาดว่า เจ้าของสมาร์ทดีไวซ์ร้อยละ 90 จะใช้ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ - ถนนที่มีรูปแบบเฉพาะ (Tailored Streets)
ระบบการเดินทางอัจฉริยะต่างๆ จะเชื่อมโยงผู้คน ยานพาหนะ และสาธารณูปโภค ทำให้การจราจรไม่แออัด สนองตอบต่อเหตุฉุกเฉินได้รวดเร็ว พร้อมฟังก์ชันอื่นๆ ที่จะทำให้ชีวิตราบรื่นยิ่งขึ้น โดย GIV คาดการณ์ว่า ยานพาหนะร้อยละ 15 จะมีเทคโนโลยี Cellular Vehicle-to-Everything - ทำงานกับหุ่นยนต์ (Working with Bots)
หลังจากที่ได้พลิกโฉมหน้าอุตสาหกรรมจำนวนมากไปแล้ว ระบบ Smart Automation จะเข้ามาช่วยงานที่ต้องอาศัยความแม่นยำสูง การทำงานซ้ำๆ และงานที่อันตรายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการผลิต โดยในรายงาน GIV คาดการณ์ว่า ในอุตสาหกรรมจะมีหุ่นยนต์ 103 ตัว ต่อพนักงานทุก ๆ 10,000 คน - ความคิดสร้างสรรค์แต่งเสริม (Augmented Creativity)
เอไอคลาวด์จะช่วยลดต้นทุนและอุปสรรคในการเข้าถึงการทดลองทางวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม และศิลปะ เปิดขุมทองแห่งโอกาสการสร้างสรรค์สำหรับทุกคน ซึ่งในรายงาน GIV คาดการณ์ว่า ร้อยละ 97 ของบริษัทขนาดใหญ่จะมีการใช้งานเอไอ การสื่อสารแบบต่อเนื่อง (Frictionless Communication)
เอไอและระบบการวิเคราะห์บิ๊กดาต้าจะสร้างการสื่อสารที่ไร้รอยต่อระหว่างบริษัทและลูกค้า รวมถึงทลายกำแพงทางภาษา ความเที่ยงตรง ความเข้าใจ และความเชื่อใจ ซึ่งจะกลายเป็นรากฐานของการสื่อสารในอนาคต โดย GIV คาดการณ์ว่า ร้อยละ 86 ขององค์กรจะใช้ประโยชน์จากดาต้าของตัวเองอย่างเต็มที่- เศรษฐกิจการอยู่ร่วมกัน (Symbiotic Economy)
บริษัททั่วโลกกำลังนำเทคโนโลยีดิจิทัลและแอปพลิเคชันอัจฉริยะบนแพลตฟอร์มการเข้าถึงแบบเดียวกันมาปรับใช้ การใช้ระบบเดียวกันนี้จะทำให้เกิดความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่มากขึ้น เกิดการแบ่งปันทรัพยากร มีอีโคซิสเต็มระดับโลกที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตลอดจนผลิตผลที่สูงขึ้น โดยในรายงาน GIV คาดการณ์ว่า ทุกบริษัททั่วโลกจะใช้เทคโนโลยีคลาวด์ และแอปพลิเคชันทางธุรกิจร้อยละ 85 จะอยู่บนคลาวด์ - การติดตั้งใช้งาน 5G อย่างรวดเร็ว
5G มาแล้ว และเริ่มมีการติดตั้งใช้งานรวดเร็วกว่าเทคโนโลยีไร้สายยุคก่อนๆ มาก นำมาซึ่งโอกาสอันยิ่งใหญ่ทั้งสำหรับบุคคล ธุรกิจ และสังคม รายงาน GIV ได้คาดการณ์ว่า ร้อยละ 58 ของประชากรทั่วโลกจะสามารถเข้าถึง 5G ได้ - การกำกับดูแลด้านดิจิทัลทั่วโลก
ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลต้องมีการถ่วงดุลด้วยมาตรฐานการจัดการข้อมูลที่ใช้ร่วมกันและหลักการใช้งานดาต้า ซึ่ง GIV คาดการณ์ว่าปริมาณดาต้าทั่วโลกในหนึ่งปีจะสูงถึง 180 ZB (1 ZB เท่ากับ 1 ล้านล้านกิกะไบต์)
ชี้เป้าลิงก์สำหรับดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็ม GIV Whitepaper 2019